วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556




“เจมส์ จิ” ซุป’ตาร์ชาละวัน ปรากฏการณ์ดังห้างแตก!




แรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่ ซุป’ตาร์ สายฟ้าแลบที่ต้องบอกว่าวินาทีนี้ ไม่มีใครเกิน “เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข” หรือ “เจมส์จิ” ละครจบ คนยังดังไม่จบ “คุณชายหมอ” จากสุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอนคุณชายพุฒิภัทร ยังฝังใจสาวๆ ล่าสุด ออกงานเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ ทำเอาห้างเกือบแตก และสร้างปรากฏการณ์ เสียงกรี๊ด ค่าตัว และงานชุกตลอดปี ละครเรื่องเดียวดังเป็นพลุแตก แซงดารารุ่นพี่ ณเดชน์ คูกิมิยะ อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ ที่แฟนคลับนั่งรอยาวนานกว่าราวกับรอซุป’ตาร์จากเกาหลีกันเลยทีเดียว

ปรากฏการณ์ห้างแตก! “เจมส์ จิ” ของเขาแรงจริง

เอไอเอส ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ คว้า “เจมส์ จิ” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ และเลือกใช้เซ็นทรัลเวิลด์ ตรงลานอีเดนเป็นที่เปิดตัว ในงานเจมส์นอกจากจะมาร้องเล่นเต้นคุยแล้ว ทุกอิริยาบถ ยังเรียกเสียงกรี๊ด จากแฟนคลับของเขาที่มารอตั้งแต่บ่ายของวัน รวมแล้ว 5-6 ชั่วโมงก็ยังมี บ้างก็มาจับจองพื้นที่ก่อนล่วงหน้า เนื่องจากภายในงานมีการกั้นรั้ว ไว้เป็นสัดส่วน ทั้งในส่วนสื่อมวลชนและแฟนคลับ ที่ต้องบอกว่า เสียงรัวชัตเตอร์ของสื่อมวลชนและแฟนคลับด้านหน้าก็นับไม่ถ้วนในวันนั้น และการ์ดที่ใช้จริงนั้นมากเท่าศิลปินเกาหลี ทั้งการ์ดล้อมตัวเจมส์ จิ และการ์ดชั้นนอกที่ต้องบอกว่าทีมเดียวกันกับที่ดูแลศิลปินเกาหลี ที่มาในเมืองไทยกันเลยทีเดียว นอกจากบริเวณหน้างานคนจะมากมายเป็นพิเศษแล้ว บริเวณชั้นต่างๆของห้างในวันนั้น ทั้งหน้าร้านขายสินค้าอื่นยังคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่มายืนดูงานเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์เอไอเอสในวันนั้น จนไม่เป็นอันขายของเนื่องจากผู้คนเยอะหนาตา และเสียงกรี๊ดที่ดังตลอดเวลา และแม้แต่เจ้าตัวอย่างเจมส์ เองก็ยังตื่นเต้นมือไม้สั่น ตอบคำถามด้วยอาการเขินอาย แต่ก็สามารถโชว์มัดใจแฟนคลับที่มารอกันหลายชั่วโมงไปได้ ขยับตัวร้อง เต้น หรือโยนมุกใดๆก็เข้าไปนั่งในใจสาวๆไปแล้วอย่างฉุดไม่อยู่ ไม่ว่าจะมุกสด มุกอ้อน สาวน้อยสาวใหญ่ สาวแท้สาวเทียมกรี๊ดกันห้างแทบแตกมาแล้วในอีเวนต์ครั้งแรกของเจมส์ ซึ่งแน่นอนว่าโฆษณาในชิ้นต่อไปที่ว่ากันว่าคือ “โตโยต้า” นั่นก็จะยิ่งใหญ่ไม่แพ้กันทีเดียว
      อย่างไรก็ตาม เมื่อนักข่าวถามถึงกระแสแข่งกับ “ณเดชน์ คูกิมิยะ” นั้น เจมส์ จิ ลั่นว่าณเดชน์คือไอดอลที่ตนดูละครมาก่อนหน้านี้ และค่าตัวโดยรวมคงไม่แตกต่างกันมาก และข่าวลือค่าตัวสูงอาจเพราะรายละเอียดในงานที่เจมส์ มีรายละเอียดมากกว่า ก่อนหน้านี้ ทั้งเณดชน์ คูกิมิยะ, บอย ปกรณ์ ,มาริโอ้ เมาเร่อ ,หมาก ปริญ กอบโกยพรีเซ็นเตอร์ไปไม่น้อย แต่ ณ เวลานี้ หนุ่มน้อยชาละวันจากเมืองพิจิตรคนนี้แม้จะไม่ออกงานอีเวนต์ฟันรายได้หลายๆหลัก แต่เฉพาะค่าโฆษณา เงินเดือนจากช่อง ค่าตัวพรีเซ็นเตอร์ และค่าเล่นละคร ก็คงทำให้รุ่นพี่หลายๆ คน หรือแม้แต่ดาราที่ฉาว ด้วยเรื่องคาวเพราะอยากดังคงต้องทำการบ้านหนักขึ้นอย่างมาก


ขนาดดารา ยังคลั่งซุป’ตาร์ “เจมส์ จิ”

ผลงานหลังจากนี้ ของเจมส์ ยังคงมีให้ตามติดกันเรื่อยๆทั้งละคร “รักสุดฤทธิ์” ที่ ประกบ “พั้นช์ วรกาญจน์ โรจนวัชร” ที่ต้องบอกว่าคอละครและแฟนคลับกำลังลุ้นว่าจะเปรี้ยงปร้างเท่ากับ “คุณชายพุฒิภัทร” หรือไม่ แต่เจมส์ ตอบเคลียร์ชัดไปแล้วว่า ละครทุกเรื่องล้วนแล้วแต่เล่นเต็มที่ คาแร็กเตอร์พลิกเป็นคนละคน และจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ราวกับละครเรื่องนั้นเป็นสิ่งสุดท้ายที่จะต้องทำ และนั่นคือคติประจำตัวของเขา
     นอกจากบรรดาแฟนคลับ แม่ยกหน้าใส ทั้งหลายแล้วต้องบอกกระแส ความฮอตของเจมส์นั้น โด่งดังถึงขั้นดาราด้วยกันเอง โดยเฉพาะดาราในสังกัดช่อง 3 ที่ได้พบหน้าของเจมส์ ก็จะขอถ่ายรูปและโพสต์ภาพดังกล่าวขึ้นอินสตาแกรม กลายเป็นขวัญใจแม่ยกพ่อยกที่เป็นดาราด้วยกันอีกต่างหาก อาทิ ตุ๊ก ดวงตา ตุงคะมณี ผู้รับบท “ย่าอ่อน” ผู้กีดกันความรักในละครสุภาพบุรุษจุฑาเทพ ในทุกๆตอน แต่ในความจริงแล้วนั้น เขาคือแม่คนที่ 2 และเป็นคล้ายอาจารย์ทางการแสดงของเจมส์ และโพสต์ผ่านอินสตาแกรมว่า “...ขอบคุณที่ดังแล้วไม่ลืมแม่” อีกทั้งในทุกการพบเจอทั้งกอดทั้งอ้อนจนตุ๊ก ดวงตากลายเป็นแม่ยกรุ่นใหญ่ของเจมส์ ไปเสียแล้ว ไม่ต่างจาก “ป้าแจ๋ว ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์” นักปั้นมือทองที่หยิบเจมส์มาใส่ในบทคุณชายพุฒิภัทร จนโด่งดังเป็นพลุแตกก็มักจะมีภาพถ่ายกับเจมส์และลูกๆ เหล่าซุป’ตาร์ มาโดยตลอด และเจมส์คนนี้ก็คือลูกรักคนล่าสุดของป้าแจ๋ว ที่เจ้าตัวเคยบอกแล้วว่า นอกจากเป็นลูกรัก ลับหลังยังโดนป้าแจ๋วด่ายับเช่นเดียวกัน
     เรียกว่าเจมส์เป็นขวัญใจของลุงป้าน้าอาในช่อง และครอบครัวละคร ที่ไม่ว่าจะไปร่วมงาน ทั้งในกองและนอกกองถ่าย เจมส์จะขายดิบขายดี เรียกว่าถูกถ่ายภาพตลอดทั้งงาน ไม่เว้นแม้แต่ดาราด้วยกันเอง อาทิ เบลล่า ราณี คู่จิ้นของเจมส์ที่ขยันโพสต์ถึงกันหลายต่อหลายครั้ง , เอ๋ พรทิพย์, พุดเดิ้ล ปาจรีย์,น้องอันดา,ออม สุชาร์,พั้นช์ วรกาญจน์, ปอย ตรีชฎา, ดีเจเอกกี้ เอกชัย, ติ๊ก กัญญารัตน์, ท็อป ดารณีนุช,ฝ้าย อริญรดา, ตุ๊ยตุ่ย พุทธชาด, หนูเล็ก ก่าก๊า ฯลฯ เรียกว่าในวงการเขาก็ฮอตชนิดที่เรียกว่าแฟนๆใน อินสตาแกรม พุ่งไปถึงกว่า 6 แสน ฟอลโล ซึ่งนาทีนี้ต้องบอกว่าชื่อของเจมส์ จิรายุ ไม่ธรรมดาอีกต่อไปแล้ว และการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ในครั้งต่อไป คาดการณ์ว่าจะมีบรรดาแฟนคลับมาแห่รอรับกันอีกอย่างคับคั่งอย่างแน่นอน


บัลลังก์พระเอก กับ เด็กไม่รับอีเวนต์

     1 ปีแล้วกับการก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง ที่อาจเปลี่ยนชีวิตเด็กต่างจังหวัดลูกคนธรรมดาเป็นซุป’ตาร์ที่ทำอะไรก็โดนจับตามอง ด้วยวัยเพียง 19 ปี นี้ “พ่อจัน” หรือ “ปิ๊ก ฌานฉลาด” ผู้จัดการส่วนตัว จึงกลายเป็นพ่อคนที่สองในการรับงาน และทำหน้าที่ผู้จัดการส่วนตัวดูแลคิวต่างๆ อีกทั้งรับงานอย่างไม่ผลีผลามให้เจมส์ และตั้งมั่นแน่วแน่ว่าจะไม่รับอีเวนต์อย่างพร่ำเพรื่อ ที่นอกเหนือไปจากพรีเซ็นเตอร์ที่รับไว้ ซึ่งตรงกับความต้องการของช่อง 3 ที่กำลังเพลียไม่น้อยกับข่าวลือที่ว่ากำลังเบื่อกับการออกงานอีเวนต์รับงานนอกมากกว่าละคร ในแง่มุมของเด็กในสังกัด “เอ ศุภชัย ศรีวิจิตร” ที่มีข่าวว่า ร้อนๆหนาวๆ เนื่องจากงานอีเวนต์กับละครมักจะซ้อนเวลากัน จนบางครั้งต้องสลับคิว ดองคิว จนเกิดปัญหาขึ้นในกองเรื่องหาคิวยาก โดยเฉพาะเด็กในสังกัด เอ ศุภชัยที่กำลังดังอยู่ในหลายๆคน เจมส์ จิ จึงคล้ายกับเป็นดาราเบอร์แรกๆ ที่ตัวเล็ก เพิ่งเข้าวงการแต่ดังเป็นพลุแตกที่เกิดมาเพื่อสอนมวยดารารุ่นพี่หลายๆคน ที่ห่วงงานอีเวนต์จนงานในกองละครเสียหาย หรือต้องให้ทีมงานรอ เป็นระยะเวลานาน บัลลังก์พระเอกละครจะดีอย่างที่ตั้งไว้หรือไม่ คงต้องดูว่า ฝีไม้ลายมือการแสดงของเขา ที่ก่อนหน้านี้ เรียนการแสดงกับ “ครูเงาะ รสสุคนธ์” และผู้จัดการส่วนตัวกำลังจะส่งเข้าไปเรียนการแสดงกับ “หม่อมน้อย ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล” ในลำดับต่อไป

    บัลลังก์พระเอกของเขายังคงโดนฝึกและเรียนการแสดง และเรียนในชีวิตจริง ควบคู่ไปด้วยที่มหาวิทยาลัยรังสิต ในคณะบริหารธุรกิจ เรียกว่า 7 วัน ของพระเอกหนุ่มน้อยคนนี้ แทบไม่มีคิวว่าง และคล้ายกับว่าการไม่รับอีเวนต์พร่ำเพรื่อของเจมส์ จิ ทำให้ พระเอกจากสุภาพบุรุษจุฑาเทพอีกคน คือ “เจมส์ มาร์” ในบท “คุณชายรณพีร์” รับทรัพย์แทนไปโดยปริยาย เพราะก่อนหน้านี้ ค่าตัวออกงาน 3 หมื่น พอละครตอนคุณชายรณพีร์ออกอากาศ ประกอบกับเจมส์ จิ ไม่รับงาน เจมส์ มาร์เลยคว้าอีเวนต์ไปครองด้วยค่าตัว ที่เอ ศุภชัย ตั้งให้ คือ 8-9 หมื่นบาท (อัปกันเห็นๆ) แต่เพราะปิ๊ก ฌานฉลาดและ เอ ศุภชัย มีเป้าหมายในการทำงานต่างกัน และข้อนี้จึงทำให้เกิดข้อครหาและเสียงเมาท์ภายในช่อง 3 ว่า เด็กเอ ศุภชัย อาจร้อนๆหนาวๆ หากช่อง 3 ปั้นเด็กของตัวเองขึ้นมาคล้ายๆกับเจมส์ จิ ในเวลานี้
     พระเอกอายุน้อยยังต้องเจออะไรอีกมาก ทั้งเรื่องข่าวกับสาวๆ เรื่องราวในวงการที่ต้องบอกว่า มีคนคอยดูแลให้เสร็จสรรพ อีกทั้งเรื่องการไม่รับรางวัลดาวรุ่งจาก หนังสือพิมพ์ “สยามดาราอวอร์ด” โดยให้เหตุผลว่าเจมส์ จิ ติดถ่ายละครในวันเดียวกัน และไม่สามารถเลื่อนทีมงานได้เนื่องจากทุกอย่างเตรียมพร้อมไว้รอหมดแล้ว ก็ไม่รู้ว่าทีมงานหนังสือพิมพ์ดาราดังจะงอนหรือไม่ เมื่อมีกรณีนี้เกิดขึ้น แต่เจมส์ จิ ก็ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ และเป็นวินัยที่ไม่อยากให้ใครมาคอยในการถ่ายละคร เส้นทางซุป’ตาร์ ความดังของเขาตอนนี้มีแต่คนอยากสัมภาษณ์จับจอง และอยู่ในช่วงดังถึงขีดสุด และยังคงเป็นปรากฏการณ์ที่หลายคนจับตามองกับซุป’ตาร์ ที่ไม่ได้เจอหน้าบ่อย เจอกันทีก็ห้างแทบแตกนี้ นับเป็นกลยุทธ์บริหารหน้าดาราไม่ให้ช้ำ ตามที่ผู้จัดละคร และ ผู้บริหาร หลายๆคนในช่อง 3 ต้องการ สถานการณ์นี้ “เอ ศุภชัย” ก็คงไม่ปล่อยให้ตัวเองขาลงนานอย่างแน่นอน เส้นสายในวงการบันเทิงและ “ฝีปาก” ยังหาลูกค้าได้เรื่อยๆ แม้จะคนละเส้นทางกับ “ปิ๊ก ฌานฉลาด” ก็ตาม

     ปรากฏการณ์ซุป’ตาร์สายฟ้าแลบของเจมส์ จิ แม่ยกกำลังกรี๊ดอย่างหนัก ไม่เว้นแม้แต่ดาราด้วยกัน ไม่ใช่ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อย ขี้อ้อน ออเซาะ ยังกุมใจสาวๆไว้ได้ทั่วประเทศ ต้องรอติดตามชมว่าหลังจากนี้เขาจะมีเส้นทางในสายซูเปอร์สตาร์อย่างไร ภายใต้พระเอกมากมายในแวดวงบันเทิงไทย แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขา “ฮอต” จริงในเวลานี้ ชนิดที่รุ่นพี่ก็มีหนาวๆ ร้อนๆ และยังมีกลุ่มแฟนคลับและกองเชียร์ไม่น้อยที่นอกจากรอคอยการพบเจอตัวเป็นๆ ของเขาแล้วยังรอว่า “ฝีมือ” ของเขาในงานชิ้นต่อไป จะออกมาอย่างไรอีกด้วย









(ต่อ 10 เรื่องน่ารู้ของเจมส์ จิรายุ)
เรื่องน่ารู้ ของ เจมส์ จิรายุ
 6. พระเอกหน้าด้าน
        หนุ่ม เจมส์ จิรายุ ให้นิยามความเป็นตัวเองว่า ออกแนว ซน ขี้เล่น สนุกสนาน ร่าเริง เพ้อ ๆ ฝัน ๆ โดยการที่เขาได้เข้ามาอยู่ในวงการบันเทิง เขาคิดว่าจังหวะชีวิตช่วงนี้เป็นช่วงที่ดีที่สุด ได้เห็นอะไร ๆ ในมุมมองที่คนอื่นเขาไม่เห็น ซึ่งเขาเองก็แฮปปี้ เพราะงานนี้สนุก การเป็นดาราทำให้เขาได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ตลอดเวลา ซึ่งเหมาะกับคนสมาธิสั้นและขี้เบื่ออย่างเขา โดยการมาอยู่ตรงจุดนี้ เจมส์บอกเองเลยว่า "ไม่ได้กลัวว่าคนจะด่าอยู่แล้ว เพราะผมเป็นคนที่หน้าด้านมาก อะไรที่ด่ามาผมก็รับหมด เพราะมันเหมือนเป็นคำสอน ที่เราต้องรับ จะได้นำมาปรับปรุง" นอกจากนี้ หนุ่ม เจมส์ จิรายุ ยังกล้าหาญชาญชัย ไม่เกรงกลัวผู้กำกับอย่าง ป้าแจ๋ว ยุทธนา ลอพันธ์ไพบูลย์ ผู้กำกับ คุณชายพุฒิภัทร เลยแม้แต่น้อย ซึ่งป้าแจ๋วเล่าว่า เจมส์จิ ชอบอำ ชอบเล่นมุก แถมแป้ก แต่เขาหน้าด้าน เล่าแล้วไม่ขำ ก็จะไปสรรหามุกแป้กมาเล่าใหม่อยู่ตลอด

 7. ลีลาศคืออะไรเหรอ
       เรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากแฟน ๆ ได้เป็นอย่างดี กับผลงานโฆษณาของหนุ่ม เจมส์ จิรายุ ที่เจ้าตัวบอกว่า พ่อของเขาส่งไปเรียนเต้นลีลาศตั้งแต่เด็ก ๆ โดยเจ้าตัวทำหน้างง ๆ พร้อมบอกว่า "ลีลาศคืออะไรเหรอ" ก่อนจะโชว์ลีลาการเต้นที่ฝึกมาราว 2-3 ปี โดยเจมส์ เล่าว่า ตอนเด็กเขาเป็นคนติดคอมพิวเตอร์มาก ใส่แว่นตั้งแต่ ป.2 จนคุณพ่อเริ่มเครียดว่าต้องหากิจกรรมอื่นให้ทำบ้าง จึงส่งไปเรียนเต้นลีลาศ "คุณพ่อบอกว่าสมัยหนุ่ม ๆ เวลาออกงานจะมีการเต้นลีลาศ โดยคิดว่าอนาคตลูกจะได้เอาไปเต้นบ้าง โดยไม่รู้ว่าสมัยนี้มันแน่นอกต้องยกออกแล้วนะ ก็หลงไปเรียนอยู่ 2-3 ปี"โดยเจมส์จิ เผยว่า การที่ไปเรียนลีลาศแบบนี้เขาไม่กลัวโดนเพื่อนแซว เพราะเพื่อนมันฟันธงว่าเขาเป็นตุ๊ดแน่นอน เนื่องจากผู้ชายคงไม่มาเต้นส่ายก้นแบบนี้ ก็โดนล้อทุกวันจนชิน แต่ทุกวันนี้ก็ส่งผลดีที่เขาเข้าวงการบันเทิง เพราะจะได้มีพื้นฐานติดตัว โดยในละครคุณชายพุฒิภัทรก็ต้องมีเต้นลีลาศด้วย ซึ่งถือว่าคุณพ่อของเขามองการณ์ไกลมาก ๆ เลยล่ะ




 8.งดรับงานอีเว้นท์ (จริงเหรอ)
     กลายเป็นประเด็นฮือฮาเมื่อมีข่าวออกมาว่า เจมส์ จิรายุ พระเอกมาแรง ไม่ยอมรับอีเว้นท์เหมือนดาราดังคนอื่น ๆ ซึ่งก็มีข้อมูลออกมาว่า ทางพี่ปิ๊ก ชาญฉลาด ผู้จัดการส่วนตัวของเขา ปั้นเขาขึ้นมาเป็นดาราในช่วงที่ทางช่องและผู้จัดไม่สบายใจที่ดาราดัง ๆ มักเลือกงานอีเว้นท์ ซึ่งได้เงินมาง่าย ๆ ครั้งละเยอะ ๆ มากกว่างานถ่ายละคร จนบางครั้งถึงกับยกเลิกคิวถ่ายละครเพื่อรับอีเว้นท์เลยทีเดียว ซึ่งพวกเขาไม่อยากให้ เจมส์ จิรายุ มาเป็นดาราเพื่อหวังกอบโกยในระยะสั้นเพียงระยะเดียว แต่อยากให้กลายเป็นนักแสดงตัวจริงที่อยู่ในวงการไปนาน ๆ มากกว่า ซึ่งเจ้าตัวหนุ่ม เจมส์ จิรายุ ก็บอกว่า เขาเองก็จะเลือกรับงานละครเป็นหลัก ส่วนอีเว้นท์คงไม่รับมากนัก เพราะคิดว่าการทุ่มเทให้กับงานละครจริง ๆ มันจะดีกว่าการที่ไปเร่ง ๆ ออกงานรับเงินตอนนี้ ตัวเขาเองก็เพิ่งอายุ 19 ไม่ได้อยากจะใช้เงินมากมาย แต่ทำงานในสิ่งที่ทำอยู่ให้ดีที่สุดก่อนก็พอ แล้วเมื่อโตขึ้น หากอยากทำงานที่ได้เม็ดเงินใหญ่ขึ้นค่อยว่ากันอีกที เขาเองยังคิดจะอยู่ตรงนี้อีกนาน เพราะติดใจในงานละคร อยากจะกลายเป็นนักแสดงที่ทำให้ทุกคนเชื่อว่าเป็นตัวละครนั้นจริง ๆ เพราะนั่นคืองานของเขา
 9.สาว ๆ ของเจมส์ จิรายุ
      เห็นว่าเป็นหนุ่มหน้าใส เสน่ห์แรงแบบนี้ แต่เมื่อถามถึงสาว ๆ เจมส์ จิรายุ กลับบอกว่า เขาเองยังไม่มีใคร ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมที่ผ่านมาถึงไม่มีสาว ๆ เข้ามาหา ทั้งที่เขาเองก็หน้าตาไม่ได้แย่นัก แต่หากจะให้มีใครตอนนี้ เขาเองก็ยังไม่พร้อมจะมีใคร เพราะจะตั้งใจทำงานเป็นหลัก หากต้องดูแลคนอื่นแล้วไม่มีเวลาให้ ก็ต้องทะเลาะกันอยู่ดี เลยยังไม่มีดีกว่า แต่หากจะถามถึงผู้หญิงในอุดมคติ เขาจะดูที่ความคิด ขอให้คุยกันรู้เรื่อง ปรึกษากันได้ และให้กำลังใจกันทุกเรื่อง ส่วนเรื่องหน้าตาเขาไม่ได้เน้น แต่ก็ชอบสาวอายุมากกว่าหน่อย เพราะจะได้คุยกันรู้เรื่อง
 10. กรี๊ดตัวเอง แฟนคลับเบอร์ 1 ของคุณชายพุฒิภัทร
     เพราะได้เห็นตัวเองในทีวีเป็นครั้งแรก กับบท ชายหมอ คุณชายพุฒิภัทร ซึ่งเป็นบทบาทที่แตกต่างกับตัวเขาอย่างสิ้นเชิง หนุ่ม เจมส์ จิรายุ ก็ออกอาการเป็นปลื้มตัวเองแบบสุด ๆ ถึงขั้นกรี๊ดตัวเอง จนเรียกได้ว่าเขาเป็นแฟนคลับเบอร์ 1 ของคุณชายพุฒิภัทรเลยล่ะ ซึ่งหนุ่ม เจมส์ จิรายุ ก็ทำให้หลายคนประทับใจกับความขี้เล่น เฮฮา และเซอร์วิสแฟนคลับเป็นอย่างดี ผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์ก ทั้งอินสตาแกรมและทวิตเตอร์ โดยตลอดช่วงที่ละครออกอากาศ เจมส์จิ จะรายงานทุกความเคลื่อนไหวของละคร แถมยังมีแซวตัวละครในเรื่อง เหมือนเป็นแฟนคลับคนหนึ่งเลยทีเดียว
เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับ 10 เรื่องน่ารู้ ของ เจมส์ จิรายุ ที่ทาง กระปุกดอทคอม นำมาฝากกัน เชื่อว่าคงจะทำให้หลายคนได้รู้จักตัวตนของผู้ชายคนนี้มากขึ้นแน่ ๆ และอาจจะยิ่งหลงรักหนุ่มคนนี้ขึ้นมาอีก ส่วนใครที่เป็นแฟนคลับของหนุ่ม เจมส์ จิรายุ ก็อย่าลืมติดตามชมผลงานเรื่อง สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายพุฒิภัทร และผลงานเรื่องต่อ ๆ ไปของเขากันด้วยนะคะ


10 เรื่องน่ารู้ ของ เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข เจ้าของฉายา ซุป'ตาร์สายฟ้าแลบ แห่งช่อง 3 หรือ คุณชายหมอ ขวัญใจของสาว ๆ จากละครเรื่อง สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายพุฒิภัทร
นาทีนี้คงไม่มีพระเอกหน้าใหม่คนไหนมาแรงแซงทุกโค้งไปกว่าหนุ่ม เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุขเจ้าของบท คุณชายหมอ หรือ คุณชายพุฒิภัทร จากละคร สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายพุฒิภัทร อีกแล้ว ทั้งด้วยหน้าหวาน ๆ ใส ๆ กับคอนเซ็ปต์หนุ่มแว่นมาดขรึมที่เต็มที่กับความรัก และบทคุณชายหมอที่ช่วยส่ง ประกอบกับเคมีที่เข้ากั๊น... เข้ากัน กับนางเอกสาว เบลล่า ราณี จนเกิดเป็นคู่จิ้นเจมส์ เบลล่า บวกความน่ารัก ดูสนุกสนานเป็นกันเองของเจ้าตัว ก็ทำให้หนุ่ม เจมส์ จิรายุ กลายเป็นขวัญใจของสาว ๆ ทั่วประเทศไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งหลายคนก็อยากจะทำความรู้จักกับตัวตนของหนุ่มคนนี้มากขึ้นไปอีก งานนี้ กระปุกดอทคอม จึงได้นำ 10 เรื่องน่ารู้ ของ เจมส์ จิรายุ ซุป'ตาร์สายฟ้าแลบ มาฝากกันด้วยค่ะ
 1. ประวัติส่วนตัว
      ชื่อจริง จิรายุ ตั้งศรีสุข ชื่อเล่น เจมส์ หนุ่มน้อยวัย 19 ปี เกิดเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2536 เลือดกรุ๊ปโอ เป็นชาวจังหวัดพิจิตรโดยกำเนิด ครอบครัวประกอบด้วย คุณพ่อ เสริมชัย คุณแม่ โชติกา ตั้งศรีสุข พี่สาว จิ๊บ จุฬารัตน์ และตัวเขา เจมส์ จิรายุ การศึกษา จบชั้นอนุบาลที่โรงเรียนราษฎร์บำรุง ประถมศึกษา โรงเรียนอนุบาลวชิร จบชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนพิจิตรพิทยาคม ปัจจุบันกำลังศึกษาในระดับปริญญาตรีที่คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต




  2. ของชอบ - ของไม่ชอบ
     เห็นมาดคุณหมอสุดขรึมในละครคุณชายพุฒิภัทรแบบนี้ แต่ตัวจริงของหนุ่ม เจมส์ จิรายุ กลับหวานเกินคาด เพราะเขาเป็นคนที่ชอบสีชมพูเป็นชีวิตจิตใจ เรียกได้ว่าแค่เห็นอะไรที่เป็นสีชมพูก็มีความสุขแล้ว แต่ดอกไม้ที่หนุ่มคนนี้ชอบคือกุหลาบสีขาวนะจ๊ะ ส่วนอาหารที่ชอบสำหรับเขาคือ หมูสะเต๊ะที่พิจิตร (ย้ำว่าต้องที่พิจิตร) อาหารที่ไม่ชอบคือเครื่องในทุกชนิด (ใครอย่าเอามาให้กินเชียว)
 3. เข้าวงการบันเทิง
      แต่ไหนแต่ไรเลย หนุ่มคนนี้ไม่ได้คิดจะเป็นดาราสักนิด แต่เพราะคุณแม่อยากให้ลูกเป็นดารามาก จึงได้แอบส่งให้ เจมส์ จิรายุ เข้าประกวด The Idol Friday 2011 ซึ่งเจ้าตัวก็ผ่านเข้ารอบจนได้รางวัลชนะเลิศมาในที่สุด แต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว (พ.ศ. 2555) ปิ๊ก ฌาณฉลาด ทวีทรัพย์ (ปิ๊ก ชาญฉลาด ผู้จัดการส่วนตัวของ เจมส์ จิรายุ) ที่กำลังมองหาดาราหน้าใหม่มาประดับวงการ ก็ได้เห็นรูปโปรไฟล์เฟซบุ๊กของเขา จากหน้าเฟซบุ๊กของเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งแล้วเกิดสนใจ จนหาทางติดต่อเขา เริ่มจากติดต่อไปที่โรงเรียน ได้เบอร์ ผอ.โรงเรียนมา ผอ.ก็โทรหาครูประจำชั้นเพื่อบอกเบอร์คุณพ่อ แต่เหมือนจะบอกเบอร์ผิดไปติดที่บ้านตรงข้าม จากนั้นบ้านตรงข้ามก็เดินมาบอก ก่อนจะได้พบกันในที่สุด ซึ่งตัวเจมส์เองมองว่าการที่เขาได้เข้ามาอยู่ในวงการบันเทิงเป็นเหมือนโชคชะตาเลยล่ะ



ปิ๊ก ชาญฉลาด ผู้จัดการส่วนตัวของ เจมส์ จิรายุ



4. ผลงานแจ้งเกิด
     อย่างที่หลายคนทราบกันดีอยู่แล้วว่าละคร สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายพุฒิภัทร เป็นงานละครเรื่องแรกของหนุ่ม เจมส์ จิรายุ ที่ทำให้เขาแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวกับบท คุณชายหมอ หรือ คุณชายพุฒิภัทร ศัลยแพทย์ด้านสมองมือ 1 ของเมืองไทย และด้วยบทนี้เองที่ทำให้สาว ๆ ทั่วประเทศคลั่งไคล้ อยากเป็นแฟนหมอกันเป็นแถว ซึ่งก็ทำให้หนุ่มคนนี้รับฉายา ซุป'ตาร์สายฟ้าแลบ ไปโดยปริยาย แต่ก่อนหน้านี้เขาเคยมีผลงานภาพยนตร์โปรโมทจังหวัดพิษณุโลกเรื่อง Where is Love อยู่ที่ไหนนะ… ความรัก รับบทเป็น น้ำน่าน แต่ดูเหมือนภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวจะยังไม่ออกฉายให้ได้ชมกัน นอกจากนี้ เจมส์ จิรายุ ยังเคยมีผลงานโฆษณา Catalogue Friday กับ ณัฐริกา ธรรมปรีดานันท์ และโฆษณา วุฒิศักดิ์คลินิก อีกด้วย
 5. คู่จิ้น เจมส์ เบลล่า
      ทำเอาแฟน ๆ จิกหมอนกันจนกระจุย กับคู่จิ้นคู่ใหม่ เจมส์ เบลล่า ที่ไม่เพียงแต่หวานกันในละคร คุณชายพุฒิภัทร เท่านั้น แต่ไม่ว่าจะไปออกรายการ ทัวร์คอนเสิร์ต อีเว้นท์ละคร หรือแม้แต่รูปในอินสตาแกรม พระนางคู่นี้ ก็จะมาภาพหวาน ๆ ให้เราได้ฟินกันตลอด ไม่ว่าจะจับมือ ส่งสายตาหวาน ๆ ให้กัน แถมหนุ่ม เจมส์จิ ยังบอกด้วยว่า เขาทำงานกับเบลล่าเข้าขากันดีมาก เพราะฝ่ายหญิงเป็นคนน่ารัก ไม่ถือตัว คอยให้กำลังใจตลอด จึงสนิทกันเร็วและยังคงสนิทกันมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่โอกาสในการเป็นแฟนกันจริง ๆ คงไม่มี เพราะเจมส์บอกว่าเป็นเพื่อนร่วมงานกันก็ดีแล้ว เพราะเข้ามาทำงานในวงการ จะมีเวลาเป็นส่วนตัวน้อยมาก จึงอยากจะให้เวลากับตัวเองและครอบครัวก่อน




เจมส์ จิรายุ เปิดตัวคุณแม่ครั้งแรก ควงมาถ่ายแบบขึ้นปกนิตยสาร แพรว









ผลงานการถ่ายแบบ

ซุปตาร์สายฟ้าแลบ เจมส์ จิรายุ ที่มาถ่ายแบบคู่กับ นางเอกสาวสุดฮอต เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณเป็นครั้งแรก ในนิตยสาร Oops

แฟชั่นสุดหวาน











บรรยากาศเบื้องหลังการถ่ายแบบ






บทสัมภาษณ์จากการร่วมงานของทั้งคู่

เจนี่ : น้องน่ารักนิสัยดีมีเสน่ห์มากค่ะ เป็นเด็กรุ่นใหม่ที่มาแรงแซงโค้งสมกับฉายาซุปตาร์สายฟ้าแลบจริงๆ คอนเซ็ปต์วันนี้เป็นแฟชั่นน่ารักสดใสหวานแหวว มีช็อตดื่มน้ำผลไม้แก้วเดียวกันและส่งสายตาให้กันด้วยนะ (อมยิ้ม) โอ้โฮ! เขินตีนกาตัวเองอ่ะ เพราะเจมส์หน้าหวานขนตางอนกว่าเราอีก ทำให้ต้องยิ้มสู้สุดฤทธิ์ จนตีนกาขึ้น 10 รอยได้แล้วมั้ง (หัวเราะ) ต้องบอกว่าถ่ายแบบมา 10 กว่าปี เอ้ย! 2-3 ปี ( แอ๊บสุดฤทธิ์ 555 ) เป็นการถ่ายแบบที่ไม่ได้รู้สึกเขินแบบนี้มานานมากแล้ว ดูสายตาและรอยยิ้มเขาสิ หวานซะขนาดนั้น ให้เจนี่ส่งตาหวานกับเจมส์แบบนี้ เปลี่ยนให้ไปห้อยโหนเล่นพิลาทิสยังง่ายกว่านะ (หัวเราะ)
เจมส์ : ครั้งนี้ถือว่าเป็นการถ่ายแบบคู่กับสาวๆ เป็นครั้งแรกของผมเลยนะ 'พี่เจนี่' ถือเป็นนางแบบคนแรกของผมเลย โอ้โฮ! ตื่นเต้นครับ พี่เค้าทั้งสวยและน่ารักมาก (อมยิ้ม) เขินนะ เขินมากด้วย แต่กลบเกลื่อนด้วยการจ้องตาพี่เขาแทนงัยครับ (อมยิ้ม) ผมเป็นแฟนคลับพี่เจนี่อยู่แล้ว ติดตามผลงานมาตลอด โดยเฉพาะเรื่อง 'แรงเงา' สนุกมาก พอถึงวันที่ละครออนแอร์จะไม่ไปไหนรอดูละครอย่างเดียว ติดมาก! จำได้ว่าเคยโพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ด้วยว่า 'ละครมาแล้วนะ' ผมชอบทั้งมุนินทร์และมุตตา ไม่ว่าพี่เขาเล่นบทไหนก็น่ารักครับ (พูดเสร็จก็ส่งสายตาหวานให้อีกฝ่าย)
เจนี่ : จริงเหรอ? (หัวเราะ) เราก็ติด 'คุณชายพุฒิภัทร' เหมือนติดซีรีส์เกาหลีนะ ดูแล้วอยากเป็นคนไข้ของคุณชายหมอขึ้นมาทันที เพราะน้องเล่นได้น่ารัก เรียบร้อยเหมาะกับบทคุณหมอ อบอุ่น ใจดีสุดๆ (ยิ้ม)

ถ้าทั้งคู่ได้เล่นละครหรือทำงานร่วมกันอีกครั้ง อยากได้คอนเซ็ปต์
แบบไหน?

เจนี่ : อยากให้เจมส์ดูโหดๆ ดิบๆ แมนๆ เปลี่ยนแนวจากหนุ่มหน้าหวานบ้างไรบ้าง คือทำยังไงก็ได้ห้ามเจมส์ยิ้มเลย เพราะยิ้มทีไรหน้าหวานกว่าเราทุกที พี่สู้ไม่ได้จริงๆ (หัวเราะ)

เจมส์ : เอ้ย! ขนาดนั้นเลยเหรอ (หัวเราะ) แต่ผมยังไงก็ได้ครับ

ถูกมองว่าเป็น 'ซุปตาร์กระชากเรตติ้ง' รู้สึกยังงัย?

เจนี่ : ถ้าเป็นเจนี่คนเดียวคงไม่สามารถทำให้ละครประสบความสำเร็จได้หรอกค่ะ ที่ 'แรงเงา' เรตติ้งสูงเพราะมีองค์ประกอบหลายอย่าง ทั้ง ผู้กำกับฯ , ผู้จัดละคร และทีมนักแสดงคุณภาพ ที่มุ่งมั่นตั้งใจทำงานกันอย่างเต็มที่

เจมส์ : ตกใจเหมือนกัน ไม่น่าเชื่อว่าละครเรื่องแรกจะมีคนดูชอบเยอะขนาดนี้ (อมยิ้ม)

เจนี่ : (หันไปพูดกับอีกฝ่าย) ในเมื่อแฟนๆ รักเจมส์เยอะขนาดนี้ ต้องรักษาความดีและมาตรฐานแบบนี้ไว้นานๆ เพราะเงินซื้อได้ทุกอย่าง ยกเว้นความดีและความรักที่แฟนๆ มีให้เรานะคะ เพราะฉะนั้นต้องดูแลตัวเองและเก็บรักษาสิ่งเหล่านี้ไว้ให้ดี พี่เชื่อว่าชีวิตของเจมส์ยังต้องพุ่งไปข้างหน้าได้ไกล ส่วนวิธีรับมือกับข่าวฉาว เจมส์ก็ต้องดูแลตัวเองดีๆ ถ้าทำอะไรที่มีความสุขโดยไม่ทำให้ใครเดือดร้อนก็ทำไปเถอะ ดูอย่างเจนี่สิ ดูแลตัวเองจนไม่มีใครเลยเนี่ย (หัวเราะ)

เจมส์ : ขอบคุณมากครับ (พร้อมยกมือไหว้ขอบคุณ)

'เจนี่' เคยชอบผู้ชายที่เด็กกว่า และ 'เจมส์'
เคยชอบรุ่นพี่บ้างมั้ย?

เจนี่ : เคยสิคะ (หัวเราะ) แต่กลัวเด็กทำอกหัก เพราะเจนี่เป็นคนที่ค่อนข้างซีเรียสกับเรื่องพวกนี้ เวลารักใครก็จะเก็บไว้ในใจ เพราะกลัวและไม่กล้าแสดงออกเหมือนกัน แต่อายุก็เป็นเพียงตัวเลขเท่านั้น ดูอย่างคู่ของ 'พี่หน่อย' กับ 'พี่เคน' สิคะ ถึงทั้งคู่มีอายุที่ห่างกันแต่ก็เป็นครอบครัวที่อบอุ่นสุดๆ จริงมะ? แต่เจมส์อย่าเพิ่งคิดถึงเรื่องพวกนี้เลย ยังเด็กอยู่ทำงานไปก่อนดีกว่า (หัวเราะ)

เจมส์ : ผมเคยประทับใจคนที่โตกว่านะ แต่ไม่ถึงกับเข้าไปจีบ เพราะตอนนั้นยังเด็ก เลยกลัวไม่กล้าครับ (อมยิ้ม)